การดูแลสุขภาพ ตามนาฬิกาชีวิต

การดูแลสุขภาพตามนาฬิกาชีวิต โดยหลักการไหลเวียนของพลังปราณใน 12 ยาม

โดยปกติร่างกายของเรานั้นทำงานสัมพันธ์กันตามเวลา โดยอาศัยอาหารที่รับประทาน

เข้าไปผ่านกระบวนการต่างๆ แล้วนำไปสร้างพลังปราณ โดยไหลเวียนไปกับเลือด

เข้าสู่อวัยวะต่างๆทั่วร่างกาย ครบ 1 รอบใน 24 ชั่วโมง โดยจะทำงานแต่ละจุดใช้เวลา

2 ชั่วโมง(1 ยาม) รวมเป็น 12 ยามโดยจะเริ่มนับเวลา 03.00 น- 04.59 น. ชึ่งเป็น

เวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นเป็นยามแรกแล้วลำดับต่อไปดังนี้

ยามที่ 1 เวลา 03.00 น. - 04.59 น. เป็นเวลาทำงานของ" ปอด"

>> เป็นช่วงเวลาที่ปอดทำงานได้อย่างเต็มที่ เพราะพลังงานจะไหลเวียนมาอยู่ที่ปอด

>> หากปอดทำงานบกพร่องหรือมีปัญหา จะมีอาการไอหรือจาม และหานใจติดขัด

>> ควรตื่นแต่เช้าในยามนี้มาบริหารปอด โดยการกำหนดลมหายใจให้ยาวและลึก

     เป็นการขับของเสียที่ค้างอยู่ที่ปอด และทำให้ปอดได้ขยายตัวเต็มที่ และรับอากาศบริสุทธิ์

ยามที่ 2 เวลา 05.00 น.- 06.59 น. เป็นเวลาการทำงานของ"ลำไส้ใหญ่"

>> เป็นช่วงที่ลำไส้จะทำงานเพื่อขับของเสียออกจากร่างกายให้หมด หากไม่มีการขับถ่าย

     ร่างกายจะดูดซึมของเสียเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เกิดริ้วรอยและกลิ่นตัว

>> ควรออกกำลังกายและอาบน้ำอุ่น เพื่อให้ลำไส้ใหญ่ขยับตัว และเพิ่มประสิทธิภาพ

    ในการขับของเสีย

ยามที่ 3 เวลา 07.00 น.- 08.59 น. เป็นเวลาการทำงานของ "กระเพาะอาหาร"

>> เป็นเวลาที่กระเพาะอาหารมีการหลั่งน้ำย่อย และทำงานได้ดีที่สุด

>> ควรทานอาหารเช้าในช่วงนี้ เพื่อให้เกิดการย่อยที่สมบูรณ์ และได้ประโยชน์อย่างเต็มที่

>> หากไม่ทานอาหารเช้าจะทำให้เกิดโรคกระเพาะอาหาร และโรคหัวใจรวมถึงทำให้

     ร่างกายขาดพลังงาน ทำให้ร่างกายขาดสมดุล และอ่อนแอ

ยามที่ 4 เวลา 09.00น. - 10.59น. เป็นเวลาของการทำงานของ"ม้าม"

>> พลังปราณจะเคลื่อนตัวมาที่ม้ามเพื่อเก็บพลังงานสำรองจากการย่อยของกระเพาะอาหาร

    ทำให้ร่างกายมีพลังงานสำรองไว้ใช้ในการทำกิจกรรมระหว่างวัน

>> เป็นช่วงต่อเนื่องจึงควรทานอาหารในยามที่ 3 เพื่อไม่ให้เสียสมดุลมาที่ม้าม

ยามที่ 5 เวลา 11.00น. - 12.59น. เป็นเวลาของการทำงานของ" หัวใจ"

>> เป็นช่วงเวลาที่หัวใจทำงานหนักที่สุด เพราะต้องสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายทุกส่วน

>> ดังนั้นหากยังไม่มีพลังงานสำรองในร่างกายจะทำให้หัวใจยิ่งทำงานหนักและทำงานลำบาก

ยามที่ 6 เวลา 13.00น.-14.59น. เป็นเวลาการทำงานของ"ลำไส้เล็ก"

>> พลังงานเข้าสู่ลำไส้เล็ก เพื่อทำงานดูดซึมสารอาหารที่ผ่านการย่อยเพื่อไปสร้างพลังงาน

>> หากในตอนเช้าไม่มีอาหารในช่วงนี้ก็จะขาดการดูดซึม ลำไส้เล็กจะย่อยตัวเอง และเริ่มอ่อนแอ

>> ควรทานอาหารเช้าและ งดอาหารในช่วงเวลานี้

ยามที่ 7 เวลา 15.00น.-16.59น. เป็นเวลาของการทำงานของ" กระเพาะปัสสาวะ"

>> ของเสียที่เกิดขึ้นจากการแปรรูปและดูดซึมสารอาหารที่ลำไส้เล็ก จะถูกขับออกมาทำให้

    กระเพาะปัสสาวะทำงานมากที่สุด

ยามที่ 8 เวลา 17.00น.-18.59น. เป็นเวลาของการทำงานของ"ไต" 

>> ไตจะทำงานหนัก ช่วยขับและกรองของเสียที่เกิดขึ้นในร่างกาย

>> ไม่ควรออกกำลังกายหนัก จะทำให้ไตวายง่าย เวียนหัว ตาพร่า ปวดศีรษะ

ยามที่ 9 เวลา 19.00น.- 20.59น. เป็นเวลาของการทำงานของ "เยื่อหุ้มหัวใจ,กล้ามเนื้อหัวใจ"

>> พลังงานเคลื่อนที่มาที่เยื่อหุ้มหัวใจ และกล้ามเนื้อหัวใจเพื่อชะล้างตัวเอง

>> ไม่ควรทำงานหนัก หรือทำกิจกรรมที่เครียดและตื่นเต้น เพื่อให้เกิดการพักผ่อน

>> ถ้าไม่พักจะทำให้หัวใจทำงานหนัก ทำให้หัวใจโต และส่งผลให้เลือดข้น ไหลเวียนไม่สะดวก

ยามที่ 10 เวลา 21.00น.-22.59น. เป็นเวลาการทำงานของ "พลังงานรวม"

>> เป็นช่วงเวลาจะสะสมพลังงาน เพื่อนำไปใช้ในวันถัดไป

>> ควรพักผ่อนและทำให้ร่างกายผ่อนคลาย หากไม่พักผ่อนจะทำให้ร่างกาย

     ขาดพลังงานที่จะใช้ในวันรุ่งขึ้น

>> ร่างกายและเซลล์ต่างๆ จะเริ่มซ่อมแซมส่วนที่หายให้ฟื้นตัวขึ้น

ยามที่ 11 เวลา 23.00น.- 00.59น. เป็นเวลาของการทำงานของ " ถุงน้ำดี "

>> พลังงานเข้าถุงน้ำดี เพื่อล้างและทำให้ถุงน้ำดีแข็งแรง

>> ทำให้เกิดการเก็บน้ำดีได้ดีมาก และมีคุณภาพ เพื่อใช้ในการย่อยสลายไขมันและผลิตฮอร์โมน

>> หากไม่มีการพักผ่อนช่วงนี้จะทำให้ไขมันตกตะกอนตามร่างกาย ทำให้เลือดข้นไหลเวียนไม่สะดวก

ยามที่ 12 เวลา 01.00น.-02.59น. เป็นเวลาของการทำงานของ" ตับ"

>> พลังงานเคลื่อนที่เข้าสู่ตับ เพื่อใช้พลังงานที่มีอยู่กำจัดของเสียและผลิตน้ำดี ไปเก็บที่ถุงน้ำดี

>> ควรนอนหลับพักผ่อนให้สนิท เพื่อให้ตับทำงานอย่างเต็มที่

>> หากไม่นอนหลับพักผ่อน ตับจะอ่อนแอ พลังงานสำรองลดลงน้ำดีมีปริมาณน้อย ส่งผลต่อการทำงานของ

*** ระบบย่อยอาหาร ทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อยหรือย่อยไม่สมบูรณ์

*** การทำงานของตับอ่อน ทำให้กระทบต่อการควบคุมระดับน้ำตาลและไขมันเลือด

*** ทำให้เกิดผลต่อระดับความดันโลหิต

*** ทำให้ภูมิต้านทานลดลง และทำให้ร่างกายอ่อนแอ

การทำให้ร่างกายกลับคืนสู่ความเป็นปกติคือ กลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงนั้น ต้องอาศัยการดูแลสุขภาพ

อย่างต่อเนื่อง ด้วยการรับประทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ สะอาดถูกหลักอนามัย งดการสูบบุหรี่และดื่มสุรา

รวมทั้งสิ่งเสพติดต่างๆ รวมถึงต้องปรับการดำเนินชีวิตให้ถูกต้องตามหลักธรรมชาติ (นาฬิกาชีวิต)

นอนหลับพักผ่อนอย่างถูกต้องและเพียงพอ โดยอาศัยผลิตภัณฑ์ หมอเส็ง ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า

ตามตำหรับหมอเส็งร่วมปรับและสร้างสมดุล ของธาตุทั้ง 4 อันเป็นองค์ประกอบของร่างกาย

ชึ่งประกอบด้วย ธาตุดิน 20 ส่วน ธาตุน้ำ 12 ส่วน ธาตุลม 6 ส่วน ธาตุไฟ 4 ส่วน ให้กลับมาทำงาน

ร่วมกันอย่างเป็นปกติ สมดุลส่งเสริมให้การทำงานของร่างกายอันเป็นสัญญาณชีวิตที่ดี กลับคืนมา คือ

1 รับประทานอาหารได้ การย่อยอาหารสมบูรณ์ส่งเสริมให้เจริญอาหาร

2 ขับถ่ายของเสียออกจากร่างกายเป็นปกติ ถูกที่และตรงเวลา

3 นอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพ สดชื่นไม่อ่อนเพลีย

ชึ่งทั้ง 3  ประการนี้เป็นตัวบ่งชี้ของสุขภาพที่ดี ชึ่งจะกลับมาหาท่านอย่างแน่นอน แล้วสุขภาพของท่าน

จะแข็งแรง โรคที่เคยอาศัยอยู่ ก็จะถอยห่างออกไปจนไม่แสดงอาการ ของโรคที่เคยเป็น หรือหาย

เป็นปกติได้ในที่สุด โดยอาศัยกลไกลตามธรรมชาติของธรรมชาติ

ผลิตภัณฑ์หมอเส็ง จึงไม่ใช่ยารักษาโรค แต่เป็นยารักษาชีวิต โดยการรักษาสมดุลของธาตุทั้ง 4 

ให้ปกติควบคู่กับวินัยในการใช้ชีวิตของเราให้สอดคล้องกับหลักการของธรรมชาติ จึงทำให้สุขภาพกาย

และใจดีเป็นสมดุลอย่างสมบูรณ์ต่อไป

สอบถามเพิ่มเติม คุณ ธีระยุทธ ศรีแก้ว 089-857-6055  ID. 0898576055

                           คุณ นันทนา สายกระสุน 092-528-1119 ID. 0925281119

หมายเหตุ ผลลัพธ์แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
Visitors: 192,670